วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552

DIY naja

สวัสดีค่ะเอาผลงานมาให้ชมค่ะ เป็นการนำขยะ(กล่องโลหะใส่ขนม)มา Recycle ตัดแปะ&ปะให้เป็นของสวยงามน่าใช้ได้อีกรอบนะคะ ว้าวๆสวยจริงอ่ะ และอีก2ชิ้นเป็นผลงานจากผ้าค่ะ เพิ่งลองหัดทำค่ะ หลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกนะคะ ทำเองใช้เองลั่นล้าาาๆ ^v^









วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2552

นวัตกรรม web 2.0 ทีนำมาใช้ในBlogนี้ค่ะ

Blog ของพัดสร้างขึ้นเพื่อส่งงานอาจารย์ ณ คอสเรียนหลักสูตรผู้เชี่ยวชาญ e-Learning TCU นะคะ
แต่ว่าอยากใส่เนื้อหาต่างๆที่พัดสนใจลงไปด้วย แต่บางเรื่องยังคง copy มาจากเว็บของคนอื่นๆอยู่เลยค่ะ อิอิ๊
แต่พัดจะพยายามใส่เนื้อหาที่เป็นของตัวเอง รูปของตัวเองเพิ่มขึ้นนะคะ และที่หนู copy มาอย่าจับกันนะ
หนูไม่ได้ใช้ทำไรเพื่อผลประโยชน์ใดๆเล้ยย นอกจากเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักผลงานดีๆของท่านต่อไปค่ะ ^o^

เอาล่ะๆ ขออธิบายนวัตกรรม web 2.0 ทีนำมาใช้ในBlogนี้นะคะ
1. VDO YouTube
2. RSS (ข่าว)จาก Norsorpor.com
3. RSS (Live Traffic Feed)
4. RSS Recent visitor
5. ผู้ติดตาม
6. รูปภาพ
7. Fitness of the Day
8. ShoutBox

จะศึกษาเพิ่มเติม ปรับปรุงไปเรื่อยๆนะคะ

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552

Eco biRd feEder

สวัสดีค่ะ วันนี้ขอนำเสนอ VDO การทำ Bird Feeder แบบช่วยรักษาสภาพแวดล้อมนะคะ
http://www.youtube.com/watch?v=ka4Ln47svLc
เว็บนี้ค่ะ ของคุณ michellekaufmann ขอขอบคุณมากๆนะคะ

in Side oUt web2.0




วันนี้ขอนำเสนอเรื่องเทคโนโลยี web2.0 ค่ะ ตามความเข้าใจและจากที่ศึกษาข้อมูลมาบ้างนะคะ


Web 2.0 คือชื่อยุคที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต ให้สามารถสร้างสังคมการติดต่อสื่อสารทั้งจากผู้นำเสนอและผู้ที่เข้าชมเว็บ ผู้ชมสามารถแสดงความคิดเห็นได้ และมีเครื่องมีที่ผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหาขึ้นเองได้ง่ายๆ ทั้งเป็นเว็บไซต์ หรือข้อมูลรูปแบบต่างๆ เช่น เสียงเพลง วิดีโอ จึงเกิดเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่บนโลกอินเตอร์เน็ตขึ้นมากมาย ทำให้เกิดการแบ่งปันความรู้ความคิดเห็นกันมากมาย


ตัวอย่างเว็บที่เป็น Web2.0


Google Adsense ระบบโฆษณาเป็นลิงค์ตามเว็บต่างๆตามเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Youtube สามารถนำเข้าวิดีโอและนำวิดีโอมาลงยังเว็บไซต์ของตนได้




flickr.com เว็บอัลบั้มเก็บและแชร์รูปออนไลน์ที่มีการโยงใยเป็นชุมชน ส่งต่อรูปกันง่าย





wikipedia.com เว็บสารานุกรมออนไลน์ที่ผู้เข้าชมสามารถสร้างคำขึ้นเอง ให้ความหมายกันเอง และแก้ไขการอธิบายคำของคนอื่นได้ตลอดเวลา



web log หรือ Blog สามารถสร้างเนื้อหาได้ง่าย ใส่รูป เสียง หรือวิดีโอที่นำมาจากเว็บอื่นๆได้ง่าย เหมือนส่งเมล เผยแพร่ส่งต่อได้กว้างขวาง







วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2552

reCycLe , You cAn







วิธีปลูกรักนั้นก็แสนง่าย เพราะเป็น Fast project อีกตามเคย ใช้เวลาประมาณสิบห้านาที เราใช้ผ้าลินนินแบบหนา (แข็งๆ) มาหุ้มกระถางต้นไม้ค่ะ จริงๆอยากได้ผ้ากระสอบค่ะ แต่หาไม่ได้

- ก่อนอื่นก็วัดขนาดของกระป๋องของเรา แล้วเผื่อไว้เย็บด้านข้างด้วย จากนั้นพับชายผ้าด้านล่างขึ้นมาเย็บเข้าไปกันผ้ารุ่ย

- เราใช้วิธีเขียนคำด้วยปากกาเขียนผ้า แต่ใครจะใช้วิธีอื่นก็ได้ค่ะ

- จับด้านข้างมาเย็บติดกัน แล้วแบะตะเข็บออก- ก้นกระป๋องเจาะรูกันน้ำขังด้วยนะคะ เดี๋ยวความรักเราจะไม่โต




ขอขอบคุณบทความและวิธี recycle รักษาโลกของเราจากคุณกิ๊กค่ะ (KOok_k) http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=completely-kik&group=19

Decoupage






“เดคูพาจ” (Découpage) อาจฟังดูไม่ค่อยคุ้นหูนัก คำนี้เป็นคำที่มาจากภาษาฝรั่งเศสคำว่า “decouper” ซึ่งแปลว่า “ตัด” นั่นเอง เป็นการเรียกขานกระบวนการตกแต่ง ประดับประดาชิ้นงานต่างๆด้วยการตัด แกะ สลักภาพพิมมพ์บนกระดาษตามแบบลวดลาย แล้วผนึกลงบนวัสดุที่เตรียมพื้นผิวไว้ด้วยกาว หรือ sealer ก่อนเคลือบทับด้วยน้ำยาเคลือบ (Varnish) หลายๆชั้น เพื่อเพิ่มความสวยงาม ทนทานก่อนนำไปใช้งานจริง

ศิลปะประดิษฐ์ลักษณะนี้มีมาก่อนนับแต่ศตวรรษที่ 12 ปรากฎให้เห็นในงานเคลือบเงา (lacquerwork) ของเอเชีย ด้วยความสวยงาม ดูดีของงานสไตล์ Oriental นี้ทำให้ได้รับความชื่นชม และมีปริมาณความต้องการนำเข้าเป็นจำนวนมากในประเทศแถบยุโรป ในช่วงศตวรรษที่ 17 ทำให้ช่างฝีมือ (artisan) ชาวเวนิช คิดผลิตชิ้นงานเลียนแบบขึ้น โดยเทคนิคที่ใช้เรียกว่า “lacca povera” หรือ “poor man’s lacquer” และได้มีการเผยแพร่จากประเทศอิตาลี ไปยังฝรั่งเศส (ศตวรรษที่ 18) และอังกฤษ ในเวลาต่อมา โดยในช่วงศตวรรษที่ 19 สมัย Victoria นี่เองที่ถือได้ว่าเป็นยุคที่งานเดคูพาจได้รับความนิยม และรุ่งเรืองที่สุด โดยเฉพาะในราชสำนัก นอกจากจะมีการสะสมผลงานเดคูพาจที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นแล้ว (Japanning) ยังมีการสร้างสรรค์ผลงานขึ้นใช้เองเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นการนำภาพดอกไม้ และลวดลายที่มีความละเมียดละไม (Sentimental motifs) มาตกแต่ง ประดับประดาเฟอร์นิเจอร์ เครื่องเรือนต่างๆ อย่างเช่น โคมไฟ, ฉากกั้นห้อง เป็นต้น จนมีการพัฒนาเทคนิคการพิมพ์ และผลิตภาพ หนังสือภาพเพื่อการตกแต่ง (Decorative Images) สำหรับใช้ในงานลักษณะดังกล่าวนับแต่นั้นเป็นต้นมา
หากผู้ที่สร้างสรรค์มีฝีมือ มีความชำนาญ และมีทักษะด้านศิลปะแล้วสามารถทำให้ภาพ หรือลวดลายบนกระดาษที่เราผนึกลงไป ดูเหมือนภาพที่เกิดจากการวาด และระบายสีจริงๆ ลงบนชิ้นงานได้เลยทีเดียว